การออกแบบและการพัฒนานวัตกรรม การเรียนรู้ในศตวรรษที่
21
และการมีส่วนร่วมของนักเรียน
หลักการข้อเกี่ยวกับมัลติมีเดีย
ริชาร์ด เมเยอร์ (Richard
Mayer), ร็อกแซนน์ โมรีโน (Roxanne Moreno)
และคนอื่น ๆ
·
หลักของมัลติมีเดีย:
เมื่อใช้ทั้งคำ(เสียงหรือข้อความ) และภาพรวมกัน
นักเรียนจำได้ดีมากกว่าการใช้คำเพียงอย่างเดียว แต่ทั้งนี้เนื้อหาต้องไม่ซ้ำซ้อนกัน
·
หลักการของพื้นที่ต่อเนื่อง:
เมื่อนำข้อความและภาพที่เกี่ยวข้องมารวมไว้ในที่เดียว
นักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีกว่าเวลาที่เนื้อหาอยู่แยกกันคนละพื้นที่
·
หกการของเวลาต่อเนื่อง:
เมื่อนำข้อความและภาพที่เกี่ยวข้องมาประสานในจังหวะ.เวลาเดียวกัน
นักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีกว่าเวลาที่เนื้อหาแสดงต่างช่วงเวลากัน
·
หลักการของการแยกความสนใจ:
เมื่อตัดคำ ภาพ และเสียงที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป นักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีกว่าเวลาที่รวมสิ่งเหล่านั้นเข้ามา
·
หลักของรูปแบบ:
เมื่อนำเสนอเนื้อหาในรูปของการบรรยายด้วยเสียง
นักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีกว่าเวลานำเสนอในรูปของข้อความบนหน้าจอ
·
หลักของความแตกต่างระหว่างบุคคล:
การออกแบบโดยอาศัยหลักการเหล่านี้ส่งผลต่อผู้มีความรู้น้อยได้มากกว่าผู้มีความรู้ดี
และยิ่งส่งผลมากขึ้นต่อคนที่ถนัดด้านมิติสัมพันธ์มากกว่าคนที่ไม่ถนัด
·
หลักของการควบคุมโดยตรง:
เมื่อสื่อการสอนเริ่มซับซ้อนขึ้น การควบคุมสื่อการสอนโดยตรง (ภาพเคลื่อนไหว
จังหวะการนำเสนอ) จะส่งผลต่อการถ่ายทอดเนื้อหามากขึ้นเช่นกัน
การเรียนรู้ที่ใช้หลายรูปแบบ
(ใช้ข้อความหรือเสียงและภาพผสมกันสามารถเพิ่มผลสัมฤทธิ์ได้หากใช้หลักการของมัลติมีเดีย
การวิเคราะห์เชิงอภิมาน (meta-analysis)
พบว่า
•
ถ้าเป็นการเรียนรู้ที่ใช้หลายรูปแบบ
แต่โต้ตอบไม่ได้ (เช่นข้อความมีภาพประกอบ หรือการบรรยายพร้อมภาพกราฟิก)
–
นักเรียนที่เคยได้เปอร์เซ็นไทล์ที่
50
จะเปลี่ยนเป็นเปอร์เซ็นไทล์ที่ 71
–
แต่ถ้าเป็นการเรียนผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบที่มีการโต้ตอบ
เช่น การจำลองสถานการณ์ การสร้างโมเดล และประสบการณ์จริง
–
นักเรียนที่เคยได้เปอร์เซ็นไทล์ที่
50
จะเปลี่ยนเป็นเปอร์เซ็นไทล์ที่ 82
กลยุทธ์ 3
ด้านในการใช้เทคโนโลยีเพื่อดึงประโยชน์จากการทำให้เห็นภาพและเพื่อให้นักเรียนอ่านภาพออก
1.พัฒนานักเรียนให้เป็นผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารที่รู้เท่าทัน
2.ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการคิดเชิงวิพากษ์และการคิดสร้างสรรค์โดยใช้ภาพ
3. ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการสื่อสารด้วยภาพ
การพัฒนาผู้เรียนให้เป็นผู้บริโภคข่าวสารให้รู้เท่าทัน
•
วิธีการพัฒนานักเรียน
–
ให้นักเรียนรู้จักวิเคราะห์วิธีที่นักโฆษณาตกแต่งรูปภาพ
–
ผู้บริโภคที่รู้เท่าทันย่อมตระหนักว่าภาพสามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์
จิตใจ ร่างกาย และการรับรู้ เราจึงควรตีความสื่อให้เหมาะสม
ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการคิดเชิงวิพากษ์และการคิดสร้างสรรค์โดยใช้ภาพ
•
การทำให้เห็นภาพเป็นเครื่องมือพิเศษสำหรับการคิดเชิงวิพากษ์และการคิดสร้างสรรค์
•
เครื่องมือหนึ่งที่น่าสนใจและใช้ได้ฟรีอยู่ในเว็บไซต์
Gapminder
Gapminder เป็นเครื่องมือสำหรับดูการเปลี่ยนแปลงของโลกในด้านต่างๆ เช่น จำนวนประชากร,เศรษฐกิจ ปริมาณการใช้มือถือ และอื่นๆ
ตั้งแต่ปี
1960 พัฒนาโดย Trendalyzer
- เครื่องมือนี้จะแสดงข้อมูลเป็นภาพ
โดยใช้ข้อมูลจากสหประชาชาติ ซึ่งประกอบด้วยลักษณะประชากร สุขภาพ พลังงาน การเมือง
ความมั่นคง และสถิติสำคัญอื่น ๆ ทั่วโลก
- แต่ละประเทศแสดงด้วยจุดบนหน้าจอ
แต่ละทวีปมีสีไม่ซ้ำกัน
- ผู้ใช้จะกำหนดชุดข้อมูลที่ต้องการลงจุดในแต่ละแกน
จากนั้นเครื่องมือจะแสดงการเปลี่ยนแปลงสถานะของประเทศต่าง ๆ ในแต่ละปี
•
ผู้เรียนที่กำลังสำรวจข้อมูลที่แปลงเป็นภาพนี้จะเริ่มตั้งคำถามทันทีว่า
เพราะเหตุใดการกลับทิศของแนวโน้มจึงเกิดขึ้นเฉพาะบางปี
และปัจจัยอะไรที่ทำให้เป็นเช่นนั้น
สิ่งเหล่านี้ช่วยเปิดโอกาสมากมายสำหรับนักเรียนในการคิดและการแก้ปัญหา
•
คลิกชมคลิปการบรรยายที่ใช้
gapminder ในการนำเสนอข้อมูล
ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการสื่อสารด้วยภาพ
•
การตีความจากภาพ
•
เข้าใจวิธีสร้างภาพเพื่อสื่อสารความคิดของตน
การนำเสนอข้อมูล และการเล่าเรื่อง
–
เช่น
แผนภูมิควรจะเป็นไปตามหลักของพื้นที่ต่อเนื่อง นั่นคือ ถ้าเป็นไปได้ควรรวมข้อความไว้ในแผนภูมิแทนที่จะใช้คำอธิบายสัญลักษณ์
เพราะสมองต้องทำงานมากขึ้นในการมองกลับไปกลับมา
มาตรฐานหลักในการออกแบบภาพ
•
ความแตกต่าง
เหตุผลที่ใช้ความแตกต่างคือเพื่อในแน่ใจว่าองค์ประกอบแต่ละอย่างของการออกแบบภาพมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
ความแตกต่างจะพึงดูดสายตา ทำให้ผู้อ่านสนใจ เช่น ขนาดอักษรที่แตกต่างกัน
•
ตัวอักษรขนาด
20 พอยต์
28 พอยต์ 36
พอยต์
•
การปรากฏซ้ำ องค์ประกอบที่ปรากฏซ้ำ ๆ
ในงานออกแบบจะเพิ่มความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของชิ้นงาน
เทคนิคการปรากฏซ้ำสามารถใช้กับฟอนต์ รูปร่าง สี ความหนา ความสัมพันธ์เชิงพื้นที่
และองค์ประกอบอื่น ๆ
•
การจัดตำแหน่ง ตำแหน่งที่องค์ประกอบต่าง ๆ
ถูกจัดวางบนหน้าเว็บจะควบคุมทิศทางสายตาผู้อ่าน
ดังนั้นองค์ประกอบแต่ละอย่างควรเชื่อมต่อกับองค์ประกอบทางสายตาอื่น ๆ เช่น
–
หัวข้อด้านบน
–
ภาพ
–
ธรรมชาติของการอ่านจากซ้ายไปขวา
(ภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย)
–
เคลื่อนไหวซ้ำ ๆ
•
ความใกล้ชิด สายตาคนเราชอบภูมิทัศน์ที่เรียบง่ายสบายตา
หากเป็นไปได้สิ่งที่เกี่ยวข้องกันควรถูกจัดวางอยู่ใกล้กัน
เพื่อให้เห็นว่าเป็นองค์ประกอบเดียวกันของภาพ ทำให้โครงสร้างไม่รกตา ช่วยจัดระเบียบข้อมูลให้ผู้อ่าน
และกำจัดสิ่งรบกวนทางสายตา
นวัตกรรมที่ 2
การอินเทอร์เน็ตเปิดโอกาสให้คนเรียนรู้ตลอดชีวิต
ในสภาพแวดล้อมแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการทั้งในระดับบุคคลและระดับกลุ่มทำความรู้ให้เป็นประชาธิปไตย
-ระบบนิเวศของการเรียนรู้กำลังพัฒนาต่อไป
มีการเรียนรู้นอกระบบในระดับบุคคลระดับวิชาชีพ ระดับครอบครัว ระดับการงาน
และระดับชุมชน ตามความต้องการ ผลประโยชน์ และความรับผิดชอบ
โรงเรียนเป็นบริบทหนึ่งของการเรียนรู้การขยายการเรียนรู้สู่บริบทอื่น
จุดมุ่งหมาย นำสิ่งที่เกี่ยวข้องและสิ่งที่นักเรียนสนใจเข้ามาอยู่ในชั้นเรียนและบูรณาการการเรียนรู้ในระบบและนอกระบบเข้าด้วยกันในระดับหนึ่ง
ความรับผิดชอบของโรงเรียน
การสร้างหลักประกันว่านักเรียนจะได้รับความรู้และเกิดความเชี่ยวชาญในการสำรวจ
การมีปฏิสัมพันธ์ และการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมดิจิทัล
•
การรู้จักใช้ข้อมูล
–
การค้นหาข้อมูลอย่างรู้จักใช้
–
สำรวจเว็บที่เห็นและที่ยังไม่เห็น
–
วิพากษ์วิจารณ์เว็บไซต์เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล
–
พยายามค้นหาข้อมูลอย่างสมดุลและครบถ้วน
เป็นทรัพยากรที่สมบูรณ์ในตัวเอง
สามารถใช้ซ้ำเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ได้
ยุคแรก
วัตถุเสมือน
ยุคปัจจุบัน
วิดีโอบนยูทูบ
ไฟล์เสียง วิดีโอสำหรับไอพอด เว็บไซต์แบบโต้ตอบ สไลด์ที่มีคำบรรยาย ฯลฯ
•
นักเรียนจะเรียนรู้ได้ลึกซึ้ง
เมื่อสามารถทดลองปรับตัวแปรต่าง ๆ ในแบบจำลอง ตัวอย่างเช่น
เครื่องมือยุคใหม่ที่ชื่อ Yenka
•
ดูการจำลองในเว็บไซด์ http://www.yenka.com/
•
คลิกเพื่อดูตัวอย่าง
•
มหาวิทยาลัย
เริ่มมีการเผยแพร่วิชาเรียนทางออนไลน์ สู่สาธารณชนมากขึ้น
–
iTunes University
ซึ่งเป็นทรัพยากรอีกแหล่งหนึ่งที่นักเรียนสามารถเข้าถึงวิชาเรียนแบบดิจิทัลของมหาวิทยาลัย
รวมถึงการบรรยายและการสัมภาษณ์ต่าง ๆ
นวัตกรรมที่
3 การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
บทเรียนในวิชาออนไลน์
•
การเรียนรู้ทางออนไลน์เพื่อเสริมการเรียนการสอนในห้องเรียน
•
บางกรณีใช้บทเรียนออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของวิชา
•
ทุกวันนี้โรงเรียนมุ่งเน้นไปที่การรับความรู้ของนักเรียนเป็นรายบุคคล
ทั้งที่ในความเป็นจริง สังคม ชุมชน และโลกของการทำงานต่างเน้นเรื่องความร่วมมือการทำงานเป็นทีม
และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมรูปแบบทางสังคมใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์
ตัวอย่างหนึ่งที่เป็นนวัตกรรม คือ การใช้เฟซบุ๊ก
ยูทูปให้นักเรียนสนใจเรื่องตารางธาตุ
•
ที่โรงเรียน High
Tech Middle ในซานดิเอโก นักเรียนสร้างเครือข่ายสังคมเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของตนโดยเปรียบเทียงกับธาตุต่าง
ๆ ครูขอให้นักเรียนแจกแจงลักษณะนิสัยของตนเอง ระบุคุณลักษณะของธาตุต่าง ๆ
แล้วเลือกธาตุที่มีคุณลักษณะตรงกับนิสัยของตนเองมาที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น